มือใหม่ ออนไลน์ ควรอ่าน
ยุคนี้ เรียกได้ว่า มีหลายแพลตฟอร์ม หลายเครื่องมือ หลายช่องทางในการทำรายได้

แต่เชื่อไหมว่า หลายคนยังสับสนว่าควรจะเดินทางบนสายออนไลน์ยังไงดี

ขอย้อนไปถึงช่วงแรกที่เข้าตลาดออนไลน์ ตัวเราเองก็งมเข็ม ถึงแม้จะไปเรียนมาหลายสำนัก

แต่สิ่งที่เราทำคือการหว่านแห เพื่อดูว่า อ่วนตัวไหนติดเบ็ด แล้วไปใส่ใจกับช่องทางนั้นก่อน ให้มากที่สุด เรียกว่าเอาจนได้

พอได้จากช่องทางหนึ่งเต็มที่แล้ว ก็ถึงค่อยขยาย เทสหาช่องทางถัดไปเพิ่ม เราทำแบบนี้มาเรื่อยๆนะ

ออเดอร์แรกที่ได้ ตอนนั้น สำหรับเรามันคือ เข็มทิศชีวิต ว่าจะเดินทางไปในลู่ทางไหนต่อ ทางไหนเดินไปแล้วไม่ใช่ ก็ไม่เสียเวลาไปสนใจต่อ เพราะมันไม่ใช่ทางของเรา แต่ขอให้ลองก่อน และที่สำคัญคือลองให้สุดนะ

คุณรู้ไหม ทำไม คนถึงทำออนไลน์กันไม่ได้เยอะ เพราะ คนชอบคิดว่ามันทำง่าย แต่จริงๆแล้ว ตั้งแต่ที่ทำออนไลน์มา ไม่เคยมีอะไรง่ายเลยสักอย่าง

ยอดแรกที่เราได้จากการงมเข็ม ออนไลน์ครั้งแรกสุด เราใช้เวลางมเข็ม ประมาณ สามเดือน ในการควำหาเส้นทางของเราเอง

ช่วงนั้นเราเข้าโลกออนไลน์ ไม่ได้ขายสินค้าในไทยด้วยนะ เราเริ่มจากการขายสินค้าในต่างประเทศ อีเบย์ อเมซอน อะลีบาบา เราทำมันช่วงแรกเลย

คำว่าทำให้สุดของเราคืออะไร ก็ทำเต็มที่ เต็มประสิทธิภาพ เราทำอีเบย์ ตอนยุคที่ทะเลเดือด กฏโคตรจะเยอะ บังคับลิมิตในการลงสินค้าอีกตั้งหาก

ในตอนนั้น เราแค่ตั้งคำถามกับตัวเราเองว่า มีเว็ปคล้ายๆ กับอีเบย์อีกไหม แล้วเราก็หาคำตอบ โดยการถามผู้คน คนที่เราไปถามก็มีทั้งให้คำตอบเราได้และไม่ได้

หน้าที่ของเราคือการพิสูจน์ และลงมือทำนั่นเอง เพราะถ้าไม่ลงมือทำเลย จะรู้ผลไหมล่ะค่ะ สิ่งที่เราอยากเรียนเพิ่มตอนนั้นคือ อะลีบาบา เพราะมันคือเว็ปขายส่งไปต่างประเทศ

เลยไปเรียน แล้วคลาสนั้น สิ่งที่เราคาดหวังจะได้ตอนแรกคือ การทำธุรกิจส่งออก แต่เนื้อหาในคลาส กลายเป็นเรื่องนำเข้า 80% มีเนื้อหา ส่งออกอยู่เพียง 20% เท่านั้น

ตอนเราเรียนจบมา เราประเมิน ศักยภาพของเรากับคนในห้อง แล้วเราก็เลือกเส้นทาง ส่งออก เพราะเชื่อว่า คนในห้อง 90% น่าจะไปทำนำเข้า แล้วอีกประมาณ 1 เดือน เราก็ได้ออเดอร์แรกจาก การทำส่งออก แต่ไม่ใช่จากอะลีบาบานะ

555 อ่านถึงตรงนี้ คงจะงงกันใช่ไหม ก็บอกแล้ว เราหว่านแห่ แล้วดูว่า อ่วนอันไหนเราตกเบ็ดได้

เราเรียนมาก็จริง แต่เราก็ไม่ได้หยุดวามรู้ที่เรียนในห้องเรียน เราหาข้อมูลต่อ ว่ามันมีเส้นทางไหนบ้าง แล้วทำทีเดียว

ยังจำได้ตอนนั้น เราคงทำงานหนักเกินไป หลับคาโน็ตบุ๊คแทบทุกวัน จนวันหนึ่ง โน๊ตบุ๊คมันก็ได้พังลงไปเลย 5555

เห็นไหมว่า ไม่มีอะไรง่ายเลย แต่ ใบเบิกทางใบแรกของเรา ก็ทำให้เราได้มีกำลังใจ ในเส้นทางนั้น แล้วลงมือทำต่อไปให้สุด ก็มีออเดอร์เข้ามาเรื่อยๆจากส่งออก มาทุกช่องทางที่เราไปทำทิ้งไว้นั้นแหละ

หลังจากนั้น ปัญหามันก็มีเข้ามาเรื่อยๆ ทั้งลูกค้า ทั้งระบบชำระเงิน ทั้งสินค้า ทั้งการตลาด นั่นล่ะ เป็นสิ่งที่ต้องเรียนรู้กับมันต่อ เคยมีคำพูดหนึ่งว่า คนที่ไม่เคยเจอปัญหา คือคนที่ไม่เคยทำอะไรเลย ดังนั้นจงยินดีและยอมรับกับปัญหาที่จะมีเข้ามา แล้วหาหนทางก้าวข้ามปัญหานั้นไปให้ได้ แค่นั้นก็พอแล้ว

เขียนมาสะยาวขนาดนี้ เพื่อจะชี้ให้เห็นว่า ก้าวแรกในการเริ่มหัดเดิน มันไม่ง่ายเลยใช่ไหมค่ะ แล้วหลังจากเดินได้ ก็ยังต้องเรียนรู้ที่จะวิ่ง และไปให้ถึงเส้นชัยอีก ผ่านอุปสรรคอีกมากมาย และก็ยังต้องเรียนรู้ตลอดเวลา

ใครที่คิดว่า เข้าสู่ตลาดออนไลน์ แค่โพสต์ขาย แค่ยิงแอด แค่นั้นก็ขายได้แล้ว คิดไว้หรือยัง ถ้าขายไม่ได้ล่ะ จะทำยังไงให้ขายได้ หรือจะไม่ขายออนไลน์ ทิ้งมัน ไม่ทำเลย

สิ่งที่จะบอกคืออะไร ทำให้สุดทาง ก่อนที่จะบอกว่าทำไม่ได้ กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียว ทำไมถึงยอมแพ้กับเส้นทางความสำเร็จได้ง่ายดาย

ไม่ได้ทางนี้ ก็ลองทางนั้น ไม่ได้ทางนั้น ก็ลองอีกทาง ลองเพื่อให้เจอทางที่ใช่ เพราะคำว่าใช่ของแต่ล่ะคน ก็ไม่เหมือนกัน

ยิ่งทุกวันนี้ โอกาสมีเยอะมาก ขอพูดเลยว่ามากจริงๆนะ
เดี๋ยวจะไล่ให้ดูเลยนะ สำหรับคนที่ไม่รู้จะไปทางไหนดี

อย่างแรกบางคนมีทักษะความขยันลงสินค้า แต่ไม่ชอบความเสี่ยง เห็นค่าแอดแล้วไม่ไหว รู้สึกกดดัน จะเป็นลม เครียดทุกวัน แบบนี้ไปสายมาร์เก็ตเพลสดีกว่าไหม หาสินค้าลงขาย แล้วหาวิธีสร้างสินค้าให้ดูแตกต่างจากคู่แข่ง ไม่ว่าจะเป็น เขียนคอนเท้นท์ให้โดนใจคนซื้อ ถ่ายภาพสินค้าให้ดูน่าสนใจ แล้วบริการที่ฉับไว สร้างเงินจากมาเกสเพลสให้รู้สึกดีกับเส้นทางออนไลน์ก่อน ดีกว่าไหม

ส่วนใครที่ไม่มีเงินลงทุนเลย ก็ลองหาช่องว่างทางโอกาส มาเล่นแร่แปรธาติกันดูนะ ไม่ว่าจะ หาสินค้ามาขาย รู้แหล่งซื้อ แต่ยังไม่ลงทุนสต๊อคสินค้า นำมาขายก่อน ขายได้ค่อยซื้อมาขาย เป็นต้น

ส่วนใครมีความรู้ ความสามารถทางด้านไหนเป็นพิเศษ ลองทำงานด้านบริการ จากทักษะที่เรามีดูนะ ไม่ว่าจะงานขายรูปภาพ คุณรู้ไหม ขายรูปภาพนี้ได้เงินมหาศาล แถมขายได้ทั่วโลกอีกต่างหาก ไว้วันไหนว่าง จะมาเขียนเจาะลึกเรื่องนี้ให้อ่านกันนะ

ส่วนใครมีรถขับ แต่รู้สึกอยากหารายได้เพิ่ม ลองขับGrab ดูไหมล่ะ เท่าที่เราคุยกับคนที่มาทำอาชีพนี้ ทำเป็นรายได้เสริม จะบอกว่า รายได้ไม่ธรรมดาเลย บางคนทำงานประจำอยู่ด้วยซ้ำ แต่ขับช่วงก่อนทำงาน กับเลิกงาน เค้าเล่าให้ฟังว่า แค่ขอขับ ก่อนไปทำงาน 2-4 เที่ยว ก็ได้ วันล่ะ 400 แล้ว ก็ตกเดือนล่ะ 12000 บาทแล้วนะ รายได้ส่วนนี้ เค้าก็เอาไปเป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ ส่วนรายได้อื่นก็จะเก็บ ถ้าให้เจาะลึกอีกนะ คงเขียนไม่หมดในบทความนี้แน่ เพราะคนที่ขับเป็นอาชีพ รายได้หลักแสนเลยนะ

ส่วนใครมีเงินลงทุน อยากเริ่มเริ่มยังไง เอาเงินไปลงทุนความรู้ก่อนนะ แล้วค่อยมาทดลองในตลาด เพราะจะได้มีคนไกด์ เวลาเราติดขัดปัญหาส่วนไหน แล้วเราก็ยังได้เพื่อนทำสายอาชีพเดียวกันด้วยนะ

ส่วนใครมีสินค้าอยากขายเลย แนะนำยังไง ถ้าเพิ่งเริ่ม แนะนำเข้ามาร์เก็ตเพลสก่อน เพราะเป็นช่องทางที่ทำรายได้ได้ง่ายที่สุดแล้ว ถ้าให้เห็นภาพได้ง่าย ก็เหมือนเราเอาสินค้าของเราไปขึ้นห้างนะ โอกาสที่คนจะเห็นสินค้าของเราก็มีสูง ถูกไหม แล้วเราค่อยมาไล่ทำการตลาดทางอื่นทีหลังนะค่ะ

เอาตัวอย่างให้เห็นคร่าวๆก่อนนะ
เขียนยาวอีกแว้วว ไม่รู้จะอ่านกันจบไหมนะ
ใครอ่านจบ คอมเม้นท์บอกกันหน่อยนะ
อย่าลืม เม้นไลค์แชร์ เป็นกำลังใจให้ด้วยนะ
แล้วพบกันในความรู้ถัดไปนะ
#getuppoint

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *